ลองนึกภาพวันที่อากาศร้อนอบอ้าว หรือวันที่คุณต้องทำกิจกรรมหนัก ๆ เหงื่อเริ่มไหล กลิ่นตัวเริ่มมา ทำให้เสียความมั่นใจ ไม่กล้าเข้าใกล้ใคร ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยการเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ที่ใช่ และเหมาะกับคุณ
แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า ในท้องตลาดก็มีผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายมากมายหลายแบบ ทั้ง ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายผู้ชาย ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายผู้หญิง ไหนจะคุณสมบัติเอย ราคาเอยอีก แล้วจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับตัวเองที่สุด ? บทความนี้มีคำตอบ !
ทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง ‘ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย’ และ ‘ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ’
ก่อนที่จะไปเลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่เหมาะกับคุณ มาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง ‘ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย (Deodorant)’ และ ‘ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ (Antiperspirant)’ กันก่อน ว่าทั้ง 2 ประเภทนี้ มีกลไกการทำงาน ส่วนผสม และประโยชน์อย่างไร
1. ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย
ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย มีกลไกการทำงานที่มุ่งเน้นไปที่การควบคุมกลิ่นตัวที่เกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังของคุณ
“เมื่อเหงื่อออกมา แบคทีเรียเหล่านี้จะย่อยสลายเหงื่อ ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจะช่วยลดปริมาณแบคทีเรียเหล่านี้ ทำให้กลิ่นตัวลดลงนั่นเอง”
โดยผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย มักมีส่วนผสมของสารต้านจุลชีพ เช่น แอลกอฮอล์ ซึ่งช่วยลดจำนวนแบคทีเรีย และน้ำหอม เพื่อกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพิ่มความหอมสดชื่น
ข้อดีของผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย คือ ช่วยลดกลิ่นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพและมักมีน้ำหอมให้เลือกหลากหลาย ส่วนข้อเสีย คือ ไม่ได้ลดปริมาณเหงื่อ อาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองในบางคน โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบาง หรือแพ้แอลกอฮอล์

2. ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ
ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ มีกลไกการทำงานที่มุ่งเน้นไปที่การปิดกั้นรูขุมขนชั่วคราว ทำให้เหงื่อออกน้อยลง โดยจะมีส่วนผสมหลัก คือ เกลืออลูมิเนียม (Aluminum Salts) ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับเหงื่อและสร้างเป็นเจลอุดตันรูขุมขน
ข้อดีของผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ คือ ลดปริมาณเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ใต้วงแขนแห้งสบาย ส่วนข้อเสีย คือ อาจทำให้เกิดคราบเหลืองบนเสื้อผ้า โดยเฉพาะเสื้อผ้าสีขาว และอาจทำให้ผิวระคายเคืองในบางคน
สรุป
คุณสมบัติ | ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย (Deodorant) | ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ (Antiperspirant) |
กลไกการทำงาน | ลดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่น | ปิดกั้นรูขุมขน ลดปริมาณเหงื่อ |
ส่วนผสมหลัก | สารต้านจุลชีพ, น้ำหอม | เกลืออลูมิเนียม |
ผลลัพธ์หลัก | ลดกลิ่นตัว | ลดเหงื่อ |
ลดเหงื่อ | ❌ | ✅ |

ปัจจัยที่ควรพิจารณา เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ดีที่สุด
การเลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายไม่ใช่แค่เลือกจากกลิ่นที่ชอบ หรือราคาที่ใช่ แต่ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ มากมาย เพื่อสุขภาพผิวที่ดีและความมั่นใจตลอดวัน ซึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณาเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ดีที่สุด มีดังนี้
1. สภาพผิว
ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม สารแต่งสี พาราเบน และสารเคมี ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น Triclosan ควรเลือกสูตร Hypoallergenic หรือ Dermatologist Tested และควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้จริง โดยทาบริเวณข้อพับแขนหรือข้อมือทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หากไม่มีอาการแพ้ก็สามารถใช้ได้
ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ หรือสารให้ความชุ่มชื้น เช่น กลีเซอรีน หรืออโลเวร่า เพื่อป้องกันผิวแห้งและระคายเคือง
อาจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส เช่น วิตามินซี ไนอาซินาไมด์ หรือสารสกัดจากธรรมชาติ แต่ควรระวังเรื่องการแพ้ และควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหากมีปัญหาผิวที่รุนแรง
2. ไลฟ์สไตล์
ควรเลือกผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ (Antiperspirant) ที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมเหงื่อได้ดี และมีคุณสมบัติ Dry Protection หรือ Extra Dry เพื่อให้ใต้วงแขนแห้งสบายตลอดวัน
สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย (Deodorant) เพื่อควบคุมกลิ่นตัว หรือผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อที่ไม่เน้นการควบคุมเหงื่อมากนัก
อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่น
3. รูปแบบผลิตภัณฑ์
ใช้งานง่าย แห้งเร็ว เหมาะสำหรับคนเหงื่อออกปานกลาง พกพาสะดวก และมีให้เลือกหลากหลายสูตรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นสูตรควบคุมเหงื่อ สูตรบำรุงผิว หรือสูตรที่ให้ความหอมสดชื่น
ควบคุมเหงื่อได้ดี เหมาะสำหรับคนเหงื่อออกมาก แต่บางครั้งอาจทิ้งคราบขาวบนเสื้อผ้า โดยเฉพาะเสื้อผ้าสีเข้ม
แห้งเร็ว สดชื่น แต่ควบคุมเหงื่อได้น้อยกว่าแบบอื่น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเหงื่อ หรือใช้เติมระหว่างวัน เพื่อเพิ่มความสดชื่นและระงับกลิ่นกายเล็กน้อย
ให้ความชุ่มชื้น แต่ใช้เวลานานกว่าจะแห้ง เพราะมีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ในปริมาณมาก หรือมีส่วนผสมของน้ำมันที่ช่วยเคลือบผิว เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นไว้
ดูดซับเหงื่อได้ดี แต่ไม่เหมาะสำหรับคนเหงื่อออกมาก และอาจทำให้เกิดคราบแป้ง

4. ส่วนผสมที่ควรพิจารณา
เช่น แอลกอฮอล์ ช่วยลดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว แต่ควรระวังการระคายเคืองในคนผิวแพ้ง่าย
ใช้ในผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ เพื่อลดปริมาณเหงื่อ แต่มีข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยในระยะยาว
เช่น สารส้ม (Alum) หรือ Baking Soda เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ต้องการใช้สารเคมี แต่ประสิทธิภาพอาจไม่เท่ากับสารเคมีสังเคราะห์
เช่น กลีเซอรีน อโลเวร่า หรือวิตามินอี ช่วยบำรุงผิวและลดการระคายเคือง
กลีเซอรีน (Glycerin) : เป็นสารให้ความชุ่มชื้น (Humectant) ที่ดีมาก ทำหน้าที่ดูดความชื้นจากอากาศเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวไม่แห้งกร้าน นุ่มลื่น และยังช่วยเคลือบผิวป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน
อโลเวร่า (Aloe Vera) : หรือว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว มีสารสำคัญ เช่น polysaccharides ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ เหมาะสำหรับผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นขั้นสุด
วิตามินอี (Vitamin E) : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ทรงพลัง ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย ช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยแผลเป็น รอยดำ รอยแดง และช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มนวลขึ้นอีกด้วย
ควรเลือกกลิ่นที่ชอบและไม่ฉุนจนเกินไป และควรระวังการแพ้น้ำหอม
5. ปัจจัยอื่น ๆ
ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับงบประมาณที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการใช้งานได้อย่างเหมาะสมที่สุด
อ่านรีวิวจากผู้ใช้คนอื่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพ เพราะจะส่งผลต่อความพึงพอใจ และความปลอดภัยของคุณ
อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบส่วนผสม วิธีใช้ และคำเตือน
ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ควรทดสอบการแพ้ก่อนเสมอ ซึ่งวิธีการทดสอบอย่างละเอียด มีดังนี้
เลือกบริเวณทดสอบ : ทาผลิตภัณฑ์ในปริมาณเล็กน้อยที่บริเวณท้องแขน ด้านในข้อศอก หรือหลังใบหูรอสังเกตอาการ : ทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมง สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ผื่นแดง คัน บวม หรือแสบร้อนอ่านผลการทดสอบ : หากไม่มีอาการผิดปกติเกิดขึ้น แสดงว่าคุณอาจไม่แพ้ผลิตภัณฑ์นั้นทดสอบซ้ำ (ถ้าจำเป็น) : หากต้องการความมั่นใจมากขึ้น สามารถทดสอบซ้ำโดยทาผลิตภัณฑ์ในบริเวณเดิมวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 7-10 วัน
บทสรุป
จะเห็นได้ว่า การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่เหมาะสมกับสภาพผิว ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณมั่นใจและสดชื่นตลอดวันอย่างแท้จริง