29 มีนาคม 2025

หมดกังวลเรื่องกลิ่น ด้วยเทคนิคการกำจัดกลิ่นอาหารในห้องครัว

ในขณะที่คุณกำลังมีความสุขกับการรังสรรค์เมนูจานโปรด แต่กลับต้องเผชิญกับ “กลิ่นไม่พึงประสงค์” ที่อบอวลอยู่ในครัวนานหลายวัน กว่าจะกำจัดออกได้ก็แทบหมดแรง ยิ่งเมนูที่มีเครื่องแกง หรืออาหารกลิ่นแรง ก็ยิ่งเป็นปัญหาหนักอกหนักใจ ทำให้หลายคน “หมดสนุก” กับการทำอาหารไปเลย

แต่คุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะบทความนี้มีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณปรุงอาหารอย่างมีความสุข หมดกังวลเรื่องห้องครัวมีกลิ่นมาฝากกัน


สาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องครัวมีมากมายหลายประการ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้

1. กลิ่นอาหาร

กลิ่นอาหารสดอาหารสดบางชนิด เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล หรือผักบางชนิด อาจมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ค่อนข้างแรง หากเก็บรักษาไม่ดี หรือทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องนานเกินไป ก็อาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้
กลิ่นจากการปรุงอาหารการปรุงอาหารบางประเภท เช่น การผัดเครื่องแกง การทอด หรือการย่างอาหาร จะทำให้เกิดกลิ่นควัน และกลิ่นของเครื่องเทศที่ค่อนข้างแรง ซึ่งอาจติดอยู่ในห้องครัวได้นาน
กลิ่นอาหารที่ไหม้อาหารที่ไหม้จะส่งกลิ่นเหม็นไหม้ที่รุนแรง และติดทนทานมาก ยากต่อการกำจัด
กลิ่นอาหารเหลืออาหารที่เหลือจากการรับประทาน หากเก็บรักษาไม่ดี หรือทิ้งไว้ในห้องครัวนานเกินไป ก็จะบูดเน่า และส่งกลิ่นเหม็นออกมา
ถุงขยะ

2. กลิ่นขยะ

กลิ่นจากเศษอาหารเศษอาหารที่ทิ้งไว้ในถังขยะ จะเน่าเสีย และส่งกลิ่นเหม็นออกมา
กลิ่นจากถังขยะถังขยะที่ไม่ได้รับการทำความสะอาด หรือไม่ได้นำไปทิ้งเป็นประจำ จะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และส่งกลิ่นเหม็นออกมา

3. กลิ่นจากสิ่งสกปรก

คราบสกปรกคราบอาหาร คราบน้ำมัน หรือคราบสกปรกอื่น ๆ ที่ติดอยู่ตามพื้นผิวต่าง ๆ ในห้องครัว จะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และส่งกลิ่นเหม็นออกมา
กลิ่นอับชื้นบริเวณที่อับชื้น เช่น ใต้ซิงค์ล้างจาน หรือในตู้เก็บของ อาจมีเชื้อราสะสม และส่งกลิ่นอับชื้นออกมา
กลิ่นจากตู้เย็น

4. กลิ่นจากอุปกรณ์ในครัว

กลิ่นจากตู้เย็นตู้เย็นที่ไม่ได้รับการทำความสะอาด หรือมีอาหารบูดเน่าอยู่ภายใน อาจส่งกลิ่นเหม็นออกมา
กลิ่นจากเครื่องล้างจานเครื่องล้างจานที่ไม่ได้รับการทำความสะอาด อาจมีเศษอาหาร หรือคราบสกปรกสะสมอยู่ภายใน จนส่งกลิ่นเหม็นออกมา
กลิ่นท่อระบายน้ำท่อระบายน้ำที่อุดตัน หรือมีเศษอาหารสะสมอยู่ อาจส่งกลิ่นเหม็นออกมาได้

5. กลิ่นอื่น ๆ

กลิ่นจากน้ำยาทำความสะอาดน้ำยาทำความสะอาดบางชนิด อาจมีกลิ่นฉุน หรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
กลิ่นจากสัตว์เลี้ยงหากมีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้าน อาจมีกลิ่นจากสัตว์เลี้ยงติดอยู่ในห้องครัวได้

หลายครั้งที่กลิ่นไม่พึงประสงค์เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้บรรยากาศในครัวเสียไป และลดทอนความสุขในการทำอาหาร ฉะนั้น เราจึงมีวิธีกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องครัวแบบครบวงจรมาฝาก เพื่อให้ครัวของคุณกลับมาหอมสดชื่นอีกครั้งหนึ่ง

เครื่องระบายอากาศ | เครื่องดูดอากาศ

1. ระบายอากาศห้องครัว ให้ถ่ายเท 

  • เปิดประตู หน้าต่าง : วิธีที่ง่ายและได้ผลที่สุด คือ การเปิดประตู หน้าต่าง เพื่อให้อากาศถ่ายเท กลิ่นไม่พึงประสงค์จะค่อย ๆ จางหายไป

  • ใช้พัดลมดูดอากาศ : พัดลมดูดอากาศจะช่วยดูดกลิ่นและควันออกไปจากห้องครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะทำอาหาร

  • เครื่องดูดควัน : หากมีเครื่องดูดควัน ควรเปิดใช้งานขณะทำอาหาร เพื่อป้องกันกลิ่นและควันไม่ให้ฟุ้งกระจาย

2. ทำความสะอาด ขจัดต้นตอของกลิ่น

  • ล้างจานทันที : อย่าปล่อยจานทิ้งไว้ข้ามคืน ควรล้างจานทันทีหลังรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันกลิ่นอาหารบูดเน่า

  • เช็ดทำความสะอาด : หลังจากการทำอาหาร ควรเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ ในห้องครัว เพื่อกำจัดคราบสกปรกและกลิ่นอาหารที่อาจติดอยู่

  • ทำความสะอาดตู้เย็น : ตรวจสอบอาหารในตู้เย็นเป็นประจำ และทิ้งอาหารที่หมดอายุหรือบูดเน่า เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็น

  • ทำความสะอาดถังขยะ : หมั่นล้างถังขยะ และเปลี่ยนถุงขยะทุกวัน เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นจากขยะ

วิธีขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์โดยธรรมชาติ

3. ใช้ตัวช่วยดับกลิ่น สารพัดประโยชน์

  • เบกกิ้งโซดา : วางถ้วยเบกกิ้งโซดาไว้ในมุมต่าง ๆ ของห้องครัว เบกกิ้งโซดาจะช่วยดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

  • ถ่าน : วางถ่านก้อนเล็ก ๆ ไว้ในห้องครัว ถ่านจะช่วยดูดกลิ่นและความชื้นได้ดี

  • กากกาแฟ : นำกากกาแฟที่แห้งแล้วมาวางไว้ในห้องครัว กากกาแฟจะช่วยดูดกลิ่น และทำให้ห้องครัวมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ได้

  • น้ำส้มสายชู : วางถ้วยน้ำส้มสายชูไว้ในห้องครัว น้ำส้มสายชูจะช่วยดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

  • มะนาว : ผ่ามะนาวเป็นซีก แล้วนำไปต้มในน้ำเดือด กลิ่นหอมของมะนาวจะช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ และทำให้ห้องครัวสดชื่นขึ้น

  • สมุนไพรหอม : วางสมุนไพรหอม เช่น ตะไคร้ ใบเตย หรือเปลือกส้ม ไว้ในห้องครัว สมุนไพรเหล่านี้จะช่วยดับกลิ่น และเพิ่มความหอมสดชื่นได้

  • เทียนหอม : จุดเทียนหอมที่มีกลิ่นอ่อน ๆ จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี และดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

4. ป้องกันกลิ่น แบบฉบับกันไว้ดีกว่าแก้

  • ทำอาหารอย่างระมัดระวัง : ระมัดระวังไม่ให้อาหารไหม้ เพราะกลิ่นอาหารไหม้จะติดทนทานมาก ยากต่อการกำจัด

  • เก็บอาหารอย่างถูกวิธี : เก็บอาหารสดในตู้เย็น และเก็บอาหารแห้งในภาชนะที่ปิดมิดชิด เพื่อป้องกันกลิ่นอาหาร

  • จัดการขยะอย่างเหมาะสม : ทิ้งขยะเป็นประจำ และทำความสะอาดถังขยะ เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นจากขยะ

  • ดูแลรักษาอุปกรณ์ในครัว : ทำความสะอาดตู้เย็น เครื่องล้างจาน และอุปกรณ์อื่น ๆ ในครัวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็น


ทั้งนี้ หากมีกลิ่นเหม็นติดแน่นในห้องครัว ลองใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของเอนไซม์ ซึ่งจะช่วยสลายคราบสกปรกและกลิ่นเหม็นได้ แต่หากห้องครัวมีกลิ่นอับชื้น ลองใช้เครื่องลดความชื้น เพื่อลดความชื้นในอากาศ และป้องกันการเกิดเชื้อรา

นอกจากนี้ การดูแลรักษาความสะอาด และการป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นตั้งแต่แรก ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ห้องครัวของคุณหอมสดชื่นอยู่เสมอนั่นเอง

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.