14 มกราคม 2025

ไขข้อสงสัย ! เลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายอย่างไรให้เหมาะกับคุณ ?

ลองนึกภาพวันที่อากาศร้อนอบอ้าว หรือวันที่คุณต้องทำกิจกรรมหนัก ๆ เหงื่อเริ่มไหล กลิ่นตัวเริ่มมา ทำให้เสียความมั่นใจ ไม่กล้าเข้าใกล้ใคร ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยการเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ที่ใช่ และเหมาะกับคุณ

แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า ในท้องตลาดก็มีผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายมากมายหลายแบบ ทั้ง ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายผู้ชาย ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายผู้หญิง ไหนจะคุณสมบัติเอย ราคาเอยอีก แล้วจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับตัวเองที่สุด ? บทความนี้มีคำตอบ !


ก่อนที่จะไปเลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่เหมาะกับคุณ มาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง ‘ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย (Deodorant)’ และ ‘ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ (Antiperspirant)’ กันก่อน ว่าทั้ง 2 ประเภทนี้ มีกลไกการทำงาน ส่วนผสม และประโยชน์อย่างไร

1. ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย มีกลไกการทำงานที่มุ่งเน้นไปที่การควบคุมกลิ่นตัวที่เกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังของคุณ

“เมื่อเหงื่อออกมา แบคทีเรียเหล่านี้จะย่อยสลายเหงื่อ ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจะช่วยลดปริมาณแบคทีเรียเหล่านี้ ทำให้กลิ่นตัวลดลงนั่นเอง”

โดยผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย มักมีส่วนผสมของสารต้านจุลชีพ เช่น แอลกอฮอล์ ซึ่งช่วยลดจำนวนแบคทีเรีย และน้ำหอม เพื่อกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพิ่มความหอมสดชื่น

ข้อดีของผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย คือ ช่วยลดกลิ่นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพและมักมีน้ำหอมให้เลือกหลากหลาย ส่วนข้อเสีย คือ ไม่ได้ลดปริมาณเหงื่อ อาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองในบางคน โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบาง หรือแพ้แอลกอฮอล์

2. ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ

ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ มีกลไกการทำงานที่มุ่งเน้นไปที่การปิดกั้นรูขุมขนชั่วคราว ทำให้เหงื่อออกน้อยลง โดยจะมีส่วนผสมหลัก คือ เกลืออลูมิเนียม (Aluminum Salts) ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับเหงื่อและสร้างเป็นเจลอุดตันรูขุมขน

ข้อดีของผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ คือ ลดปริมาณเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ใต้วงแขนแห้งสบาย ส่วนข้อเสีย คือ อาจทำให้เกิดคราบเหลืองบนเสื้อผ้า โดยเฉพาะเสื้อผ้าสีขาว และอาจทำให้ผิวระคายเคืองในบางคน

สรุป

คุณสมบัติผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย (Deodorant)ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ (Antiperspirant)
กลไกการทำงานลดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นปิดกั้นรูขุมขน ลดปริมาณเหงื่อ
ส่วนผสมหลักสารต้านจุลชีพ, น้ำหอมเกลืออลูมิเนียม
ผลลัพธ์หลักลดกลิ่นตัวลดเหงื่อ
ลดเหงื่อ


การเลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายไม่ใช่แค่เลือกจากกลิ่นที่ชอบ หรือราคาที่ใช่ แต่ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ มากมาย เพื่อสุขภาพผิวที่ดีและความมั่นใจตลอดวัน ซึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณาเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ดีที่สุด มีดังนี้

1. สภาพผิว

  • ผิวบอบบาง / แพ้ง่าย

    ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม สารแต่งสี พาราเบน และสารเคมี ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น Triclosan ควรเลือกสูตร Hypoallergenic หรือ Dermatologist Tested และควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้จริง โดยทาบริเวณข้อพับแขนหรือข้อมือทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หากไม่มีอาการแพ้ก็สามารถใช้ได้

  • ผิวแห้ง

    ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ หรือสารให้ความชุ่มชื้น เช่น กลีเซอรีน หรืออโลเวร่า เพื่อป้องกันผิวแห้งและระคายเคือง

  • ผิวคล้ำเสีย / มีรอยดำ

    อาจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส เช่น วิตามินซี ไนอาซินาไมด์ หรือสารสกัดจากธรรมชาติ แต่ควรระวังเรื่องการแพ้ และควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหากมีปัญหาผิวที่รุนแรง

    2. ไลฟ์สไตล์

  • คนออกกำลังกาย / เหงื่อออกมาก

    ควรเลือกผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ (Antiperspirant) ที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมเหงื่อได้ดี และมีคุณสมบัติ Dry Protection หรือ Extra Dry เพื่อให้ใต้วงแขนแห้งสบายตลอดวัน

  • คนทำกิจกรรมทั่วไป / เหงื่อออกปานกลาง

    สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย (Deodorant) เพื่อควบคุมกลิ่นตัว หรือผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อที่ไม่เน้นการควบคุมเหงื่อมากนัก

  • คนที่ไม่ค่อยมีเหงื่อ

    อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่น

    3. รูปแบบผลิตภัณฑ์

  • โรลออน

    ใช้งานง่าย แห้งเร็ว เหมาะสำหรับคนเหงื่อออกปานกลาง พกพาสะดวก และมีให้เลือกหลากหลายสูตรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นสูตรควบคุมเหงื่อ สูตรบำรุงผิว หรือสูตรที่ให้ความหอมสดชื่น

  • สติ๊ก

    ควบคุมเหงื่อได้ดี เหมาะสำหรับคนเหงื่อออกมาก แต่บางครั้งอาจทิ้งคราบขาวบนเสื้อผ้า โดยเฉพาะเสื้อผ้าสีเข้ม

  • สเปรย์

    แห้งเร็ว สดชื่น แต่ควบคุมเหงื่อได้น้อยกว่าแบบอื่น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเหงื่อ หรือใช้เติมระหว่างวัน เพื่อเพิ่มความสดชื่นและระงับกลิ่นกายเล็กน้อย

  • ครีม

    ให้ความชุ่มชื้น แต่ใช้เวลานานกว่าจะแห้ง เพราะมีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ในปริมาณมาก หรือมีส่วนผสมของน้ำมันที่ช่วยเคลือบผิว เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นไว้

  • แป้ง

    ดูดซับเหงื่อได้ดี แต่ไม่เหมาะสำหรับคนเหงื่อออกมาก และอาจทำให้เกิดคราบแป้ง

    4. ส่วนผสมที่ควรพิจารณา

  • สารต้านจุลชีพ

    เช่น แอลกอฮอล์ ช่วยลดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว แต่ควรระวังการระคายเคืองในคนผิวแพ้ง่าย

  • เกลืออลูมิเนียม

    ใช้ในผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ เพื่อลดปริมาณเหงื่อ แต่มีข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยในระยะยาว

  • สารสกัดจากธรรมชาติ

    เช่น สารส้ม (Alum) หรือ Baking Soda เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ต้องการใช้สารเคมี แต่ประสิทธิภาพอาจไม่เท่ากับสารเคมีสังเคราะห์

  • สารให้ความชุ่มชื้น

    เช่น กลีเซอรีน อโลเวร่า หรือวิตามินอี ช่วยบำรุงผิวและลดการระคายเคือง

    กลีเซอรีน (Glycerin) : เป็นสารให้ความชุ่มชื้น (Humectant) ที่ดีมาก ทำหน้าที่ดูดความชื้นจากอากาศเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวไม่แห้งกร้าน นุ่มลื่น และยังช่วยเคลือบผิวป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน

    อโลเวร่า (Aloe Vera) : หรือว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว มีสารสำคัญ เช่น polysaccharides ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ เหมาะสำหรับผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นขั้นสุด

    วิตามินอี (Vitamin E) : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ทรงพลัง ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย ช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยแผลเป็น รอยดำ รอยแดง และช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มนวลขึ้นอีกด้วย

  • น้ำหอม

    ควรเลือกกลิ่นที่ชอบและไม่ฉุนจนเกินไป และควรระวังการแพ้น้ำหอม

    5. ปัจจัยอื่น ๆ

  • ราคา

    ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับงบประมาณที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการใช้งานได้อย่างเหมาะสมที่สุด

  • รีวิวจากผู้ใช้

    อ่านรีวิวจากผู้ใช้คนอื่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

  • แบรนด์

    เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพ เพราะจะส่งผลต่อความพึงพอใจ และความปลอดภัยของคุณ

  • ฉลากผลิตภัณฑ์

    อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบส่วนผสม วิธีใช้ และคำเตือน

  • การทดสอบการแพ้

    ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ควรทดสอบการแพ้ก่อนเสมอ ซึ่งวิธีการทดสอบอย่างละเอียด มีดังนี้
    เลือกบริเวณทดสอบ : ทาผลิตภัณฑ์ในปริมาณเล็กน้อยที่บริเวณท้องแขน ด้านในข้อศอก หรือหลังใบหูรอสังเกตอาการ : ทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมง สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ผื่นแดง คัน บวม หรือแสบร้อนอ่านผลการทดสอบ : หากไม่มีอาการผิดปกติเกิดขึ้น แสดงว่าคุณอาจไม่แพ้ผลิตภัณฑ์นั้นทดสอบซ้ำ (ถ้าจำเป็น) : หากต้องการความมั่นใจมากขึ้น สามารถทดสอบซ้ำโดยทาผลิตภัณฑ์ในบริเวณเดิมวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 7-10 วัน

     


    จะเห็นได้ว่า การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่เหมาะสมกับสภาพผิว ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณมั่นใจและสดชื่นตลอดวันอย่างแท้จริง

  • สินค้าที่เกี่ยวข้อง

    ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

    ซื้อเลย

    For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.